
http://www.thaigoodview.com/node/204968
ตำนานกวนเกษียรสมุทร
เกษียรสมุทร เป็นทะเลน้ำนมตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู เป็นวรรณกรรมที่เล่าเรื่องของพระอินทร์ในตอนที่เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์และได้พบกับฤๅษีทุรวาสที่รับดอกไม้สักการะจากพระแม่ปราวตี แต่ฤๅษีเห็นว่าหากตนคล้องดอกไม้จากพระแม่ คงจะไม่เหมาะสม จึงได้ถวายดอกไม้นั้นแก่พระอินทร์แทน เมื่อพระอินทร์รับแล้วก็ทรงมอบแก่พระชายาอีกครั้ง แต่ด้วยกลิ่นของดอกไม้ทำให้พระชายามึนเมาจึงทิ้งไป ฤๅษีเห็นดังนั้นก็โกรธแล้วสาปแช่งพระอินทร์และบริวารให้อ่อนกำลังลงและพ่ายแพ้ในสงคราม
เมื่อสาปแช่งดังนี้แล้วฤๅษีก็เดินจากไป อีกทั้งกำลังของเทวดาก็ลดลงครึ่งหนึ่ง และเมื่ออสูรทราบข่าวพระอินทร์โดนสาปแช่งจึงได้ยกทัพไปตีสวรรค์ ทำให้พระอินทร์พ่ายแพ้ และเพื่อฟึ้นคืนกำลังจึงต้องทำการกวนเกษียรสมุทรให้เกิดน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้เป็นอมตะและให้มีกำลังมากขึ้นกว่าที่เคยมี และได้เชิญพระวิษณุให้มาเป็นองค์ประธานในการย้ายภูเขามันทรคีรี ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นแหล่งกำเนิดมณีนพรัตน์มาไว้ทำการเกษียรสมุทร แต่เนื่องจากเทวดาฝ่ายเดียวไม่สามารถกวนเกษียรสมุทรให้สำเร็จได้จึงต้องชักชวนอสูรมาด้วย โดยเทวดาออกอุบายว่าจะแบ่งน้ำอมฤตครึ่งหนึ่งให้ แต่เมื่อกวนจนได้น้ำอมฤตมาแล้วเทวดาก็ออกอุบายหลอกอสูรเพื่อให้พวกตนได้ดื่มน้ำอมฤตก่อน แต่มีอสูรตนหนึ่งชื่อว่าราหูได้แปลงร่างเป็นเทวดาทำให้ได้ดื่มน้ำอมฤตเหมือนกับฝ่ายเทวดา
เมื่อสาปแช่งดังนี้แล้วฤๅษีก็เดินจากไป อีกทั้งกำลังของเทวดาก็ลดลงครึ่งหนึ่ง และเมื่ออสูรทราบข่าวพระอินทร์โดนสาปแช่งจึงได้ยกทัพไปตีสวรรค์ ทำให้พระอินทร์พ่ายแพ้ และเพื่อฟึ้นคืนกำลังจึงต้องทำการกวนเกษียรสมุทรให้เกิดน้ำอมฤตเพื่อดื่มกินให้เป็นอมตะและให้มีกำลังมากขึ้นกว่าที่เคยมี และได้เชิญพระวิษณุให้มาเป็นองค์ประธานในการย้ายภูเขามันทรคีรี ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นแหล่งกำเนิดมณีนพรัตน์มาไว้ทำการเกษียรสมุทร แต่เนื่องจากเทวดาฝ่ายเดียวไม่สามารถกวนเกษียรสมุทรให้สำเร็จได้จึงต้องชักชวนอสูรมาด้วย โดยเทวดาออกอุบายว่าจะแบ่งน้ำอมฤตครึ่งหนึ่งให้ แต่เมื่อกวนจนได้น้ำอมฤตมาแล้วเทวดาก็ออกอุบายหลอกอสูรเพื่อให้พวกตนได้ดื่มน้ำอมฤตก่อน แต่มีอสูรตนหนึ่งชื่อว่าราหูได้แปลงร่างเป็นเทวดาทำให้ได้ดื่มน้ำอมฤตเหมือนกับฝ่ายเทวดา
แต่พอพระอาทิตย์กับพระจันทร์ทราบเรื่องจึงฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงโกรธและขว้างจักรตัดราหูขาดเป็นสองท่อนแต่ไม่ตายเพราะได้ดื่มน้ำอมฤตทำให้เป็นอมตะ ราหูจึงโกรธแค้นพระอาทิย์กับพระจันทร์เมื่อเจอกันครั้งใดก็จะอมพระอาทิตย์กับพระจันทร์
จากตำนานกวนเกษียรสมุทรนี้ มีเรื่องราวของวิเศษที่เกี่pวข้องถึง 14 ชิ้น แต่จะขอกล่าวถึง ช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นช้างที่ถูกกล่าวขานในตำนานนี้ด้วยเช่นกัน
ตำนานช้างเอราวัณ
ตำนานช้างเอราวัณนั้นมีกล่าวไปในหลายๆเรื่องราว เพราะบางตำนานก็บอกว่า พระอิศวรได้ประทานช้างเอราวัณให้แก่พระอินทร์ บางตำนานก็ว่าจริงๆแล้วช้างเอราวัณเป็นเทพบุตรอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่เมื่อพระอินทร์จะเสด็จไปที่ไหน เทพบุตรเอราวัณก็จะแปลงกายเป็นช้างเผือกเพื่อกลายเป็นยานพาหนะให้กับพระอินทร์นั่นเอง ในตำนานกล่าวอีกว่า ช้างเอราวัณเป็นช้างที่ตัวใหญ่เหมือนภูเขา มีผิวกายที่สวยงามเผือกผ่อง เป็นช้างที่มีพละกำลังมาก และเป็นช้างที่ถือได้ว่า และเป็นเจ้าแห่งช้างทั้งหลาย
ลักษณะเด่นของช้างเอราวัณ
ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีขนาดใหญ่มาก ผิวกายสีขาว มีหัว 33 หัว แต่ละหัวมีงาเจ็ดงา แต่ละอันยาวสี่ล้านวา แต่ละงามีสระโบกขรณีเจ็ดสระ แต่ละสระมีกอบัวเจ็ดกอ แต่ละกอมีดอกบัวเจ็ดดอก แต่ละดอกมีกลีบเจ็ดกลีบ แต่ละกลีบมาเทพธิดาฟ้อนรำเจ็ดองค์ แต่ละองค์มีบริวารอีกเจ็ดนาง รวมได้ว่า ช้างเอราวัณ มี 33 หัว มีงา 231 งา มีสระบัว 1,617 สระ มีกอบัว 11,319 กอ มีดอกบัว 79,233 ดอก กลีบบัว 554,631 กลีบ เทพธิดา 3,882,417 องค์ และบริวารของเทพธิดาอีก 27,176,919 นาง
https://th.wikipedia.org/wiki/ช้างเอราวัณ
#/media/File:Bangkok_wat_suthat_016.JPG
หน้าที่อันสำคัญของช้างเอราวัณ
ช้างเอราวัณเป็นยานพาหนะคู่พระทัยของพระอินทร์เพื่อไปยังที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นบนสวรรค์ หรือแม้แต่โลกมนุษย์ เพื่อคอยดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก รวมถึงช้างเอราวัณยังมีหน้าที่เป็นช้างศึกให้กับพระอินทร์ในการออกไปทำศึกสงครามกับพวกอสูร และยังคงทำหน้าที่ดูแลโลกตะวันออกร่วมกับพระอินทร์
นอกจากพระอินทร์จะเป็นหัวหน้าเทพที่คอยกำกับดูแลดิน ฟ้า อากาศ มีวัชระสายน้ำเป็นอาวุธ และช้างเอราวัณยังถือได้ว่าเป็นศัตรูกับความแห้งแล้ง เพราะช้างเอราวัณจะคอยนำความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มฉ่ำมาสู่โลกมนุษย์ โดยที่ช้างเอราวัณจะมีหน้าที่ในการดูดน้ำจากโลกขึ้นสูสวรรค์ เพื่อให้พระอินทร์บันดาลน้ำจากท้องฟ้าตกลงสู่โลกมนุษย์
นอกจากพระอินทร์จะเป็นหัวหน้าเทพที่คอยกำกับดูแลดิน ฟ้า อากาศ มีวัชระสายน้ำเป็นอาวุธ และช้างเอราวัณยังถือได้ว่าเป็นศัตรูกับความแห้งแล้ง เพราะช้างเอราวัณจะคอยนำความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มฉ่ำมาสู่โลกมนุษย์ โดยที่ช้างเอราวัณจะมีหน้าที่ในการดูดน้ำจากโลกขึ้นสูสวรรค์ เพื่อให้พระอินทร์บันดาลน้ำจากท้องฟ้าตกลงสู่โลกมนุษย์
รวมถึงช้างเอราวัณนอกจากจะเป็นสัตว์ที่มอบความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มชื่นให้กับโลกมนุษย์แล้ว ช้างเอราวัณยังป็นสัญลักษณ์สำคัญของการกระทำความดีและเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และเหตุที่ทำให้ช้างเอราวัณมี 33 เศียร คงเป็นเพราะรูปแบบทางด้านศิลปะน่าจะมีความงดงามลงตัวมากกว่า

https://www.pinterest.com/pin/551128073125363941/

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/
2006/10/K4837255/K4837255.html
ลักษณะงานศิลปะ
งานศิลปะที่พบเกี่ยวกับช้างเอราวัณนั้นมีปรากฏไม่มากนัก แต่จะปรากฏในรูปแบบของงานงานประติมากรรมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งศิลปะต่างๆนั้นมีตัวอย่างดังต่อไปนี้

https://www.bloggang.com/mainblog.php
พระอินทร์ เทพประจำทิศตะวันออก ทรงช้างเอราวัณ
พบที่ปราสาทเมืองแขก ปัจจุบันเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมายรูปแบบศิลปกรรม
รูปแบบศิลปะ : ทับหลังเป็นภาพสลักเล่าเรื่องขนาดใหญ่อยู่กลางภาพ มีส่วนสูงเลยขอบด้านบนไปถึงขอบโยคี ท่อนพวงมาบัยมีขนาดเล็ก เป็นเส้นตรงที่ปลายทั้งสองข้าง ของท่อนพวงมาลัยเป็นรูปคณะ หรือรูปของบุคคลที่มีศรีษะเป็นช้างขี่วงของตนเองที่ตกลงมาเป็นรูปสัตว์สี่เท้า ที่ฐานด้านล่างมีกลีบบัวประดับอยู่ ซึ่งรูปแบบทับหลังเช่นนี้เป็นรูปแบบของทับหลังที่เกิดขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15
รูปแบบศิลปะ : ทับหลังเป็นภาพสลักเล่าเรื่องขนาดใหญ่อยู่กลางภาพ มีส่วนสูงเลยขอบด้านบนไปถึงขอบโยคี ท่อนพวงมาบัยมีขนาดเล็ก เป็นเส้นตรงที่ปลายทั้งสองข้าง ของท่อนพวงมาลัยเป็นรูปคณะ หรือรูปของบุคคลที่มีศรีษะเป็นช้างขี่วงของตนเองที่ตกลงมาเป็นรูปสัตว์สี่เท้า ที่ฐานด้านล่างมีกลีบบัวประดับอยู่ ซึ่งรูปแบบทับหลังเช่นนี้เป็นรูปแบบของทับหลังที่เกิดขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15
https://th.wikipedia.org/wiki/ช้างเอราวัณ
จิตรกรรมลายลดน้ำวัดสุทัศนเทพวราราม

https://www.ceediz.com/th/travel/samutprakarn
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เป็นประติมากรรมช้างสามเศียรแบบลอยตัว ซึ่งพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อ เป็นสถานที่ที่แสดงงานศิลปะในแนวของอุดมคติ ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อของศาสนาและจักรวาล เกิดจากการสร้างสรรค์ความงามของศิลปะตะวันออกแบบไทย ผสมเข้ากับความงามของศิลปะแบบตะวันตก ก่อให้เกิดมรดกทางวัฒนธรรมที่สวยงามและทรงคุณค่าในแบบของไทยด้วย และยังสื่อให้เห็นว่า ช้างถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยมายาวนาน

http://shreegurudevamantra.blogspot.com
ศรีคุรุเทพมนตรา
นอกจากช้างเอราวัณจะไปปรากฏในงานศิลปะจำพวกประติมากรรมแล้ว ช้างเอราวัณยังถือได้ว่าเป็นช้างศักดิ์สิทธิจึงทำให้ ไปปรากฏในงานศิลปะที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ คาถา หรือยันต์นั่นเอง เพื่อนำไปบูชาและเกิดศิริมงคลกับชีวิต

อ้างอิง
Unseen.com.(ม.ป.ป.).ตำนานกวนเกษียรสมุทร.https://www.unzeen.com/article/1976/.(ออนไลน์).สืบค้น 16 พฤศจิกายน 2561
บทพากษ์เอราวัณ.(ม.ป.ป.).ลักษณะช้างเอราวัณ.https://sites.google.com/site/bthphakyxerawanmew11/xun/prawati-chang-xerawan.(ออนไลน์).สืบค้น 16 พฤศจิกายน 2561
The Erawan Group.(ม.ป.ป.).ตำนานเอราวัณ.http://www.theerawan.com/th/about/myth_of_erawan.(ออนไลน์).สืบค้น 16 พฤศจิกายน 2561
Wigiwand.(ม.ป.ป.).ช้างเอราวัณ.http://www.wikiwand.com/th/ช้างเอราวัณ.(ออนไลน์).สืบค้น 16 พฤศจิกายน 2561

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น