วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563

พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองชาวสะหวันนะเขต

 💕พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว💕


https://www.nairobroo.com/

         💖พระธาตุอิงฮัง💖 คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชาวสะหวันนะเขตและชาวลาวให้ความเคารพและศรัทธามาก ถือได้ว่าเป็นพระธาติคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากใครที่ผ่านไปผ่านมาประเทศลาวจำเป็นต้องแวะที่พระธาติอิงฮังแห่งนี้ เพื่อมากราบไหว้ขอพร ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่มากราบไหว้ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามักจะสมหวังตามคำขอทุกประการ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คนทำให้มีผู้คนไปกราบไหว้ขอพร ณ สถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้ฉายาว่า เป็นพระธาตุคู่แฝดกับพระธาตุพนมของไทย

         💖ที่ตั้ง💖  พระธาตุอิงฮังอยู่ห่างจากตัวเมืองของทางหลวงหมายเลข 13 ประมาณ 12กิโลเมตร ไปทางถนนบ้านโพนสิน 
                
         💖ประวัติความเป็นมา💖 พระธาตุอิงฮัง สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบอง หรือ โคตรบูรณ์ ประมาณพ.ศ.400 อยู่ในสมัยพระเจ้าสุมิตธรรมวงศา พระองค์สร้างขึ้นตามคำแนะนำของสมณทูตสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่เดินทางเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในสุวรรณภูมิครั้งแรกได้สร้างเป็นธาตุกู่ เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกสันหลังพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาจากกรุงราชคฤก มาประดิษฐานไว้ภายในกู่ธาตุ เพื่อเป็นเครื่องหมายแทนสถานที่ปรินิพพานที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานในป่าฮัง
            ตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ในสมัยพุทธกาลองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จเปิดโลกและรับอาราธนามาฉันภัตตาหารที่บริเวณนี้ ต่อมาพระเจ้าพระเจ้าสุมิตธรรมวงศา กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรศรีโคตรบอง ได้สร้างพระธาตุองค์นี้ขึ้นพร้อมตั้งชื่อว่าพระธาตุอิงฮัง เมื่อถึงศตวรรษที่ 9 อาณาจักรศรีโคตรบอง เริ่มเสื่อมอ่อนแอลงชนชาติขอมได้รุกเข้ามามีอำนาจแทน พระธาตุอิงฮัง จึงถูกดัดแปลงเป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ ภายใต้การนำของพระเจ้าสุมนธาธิราชราชา ได้มีการสร้างต่อเติมองค์พระธาตุ ตกแต่งลวดลาย ประติมากรรมเป็นเรื่องเมถุนสังวาส และรามายนะ นับแต่นั้นมาลักษณะศิลปกรรมของพระธาตุอิงฮัง จึงเป็นศิลปะแบบขอมโบราณ พร้อมกับเรียกชื่อว่า อินทรปราสาท
        จนถึงศตวรรษที่ 14 ชนชาติลาวได้เข้ามามีอำนาจแทนขอม สมัยพระโพธิสารราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งเลื่อมใสพุทธศาสนาได้นำพุทธศาสนิกชนบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม พระธาตุอิงฮัง พระธาตุโพนคึมใหญ่ จนถึงสมัยพระเจ้าไซยะเสดถาธิราช ได้ต่อเติมศิลปะล้านช้างเข้าไปในองค์พระธาตุอิงฮัง และเสริมยอดดวงปี ดัดแปลงให้เป็นพระธาตุทางพระพุทธศาสนา โดยฐานพระธาตุแต่ละด้านกว้าง 9 เมตร สูง 25 เมตร ปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน
             นอกจากนั้น ยังมีตำนานความเชื่อของชุมชนบ้านธาตุอิงฮัง เกี่ยวกับการที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาเสวยภัตตาหารบริเวณนี้ และเสวยภัตตาหารที่ทำจากหมู จึงเกิดอาหารเป็นพิษ ชุมชนบ้านธาตุอิงฮัง จึงไม่มีใครเลี้ยงหมูจนถึงปัจจุบัน นี่คือความเชื่อพุทธของชาวบ้าน ที่มีระบบความเชื่อความศรัทธาปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างเคร่งครัดจวบจนปัจจุบัน


จิตรกรรมฝาผนัง
http://www.photoontour9.com/

                

 
กำแพงล้อมตัวพระธาตุ
https://www.youtube.com/watch?v=o9GgDg2Wsm4


        💖การเดินทางไปพระธาตุอิงฮัง💖 โดยรถตุ๊กตุ๊กสามารถเรียกจากตัวสนามบินได้เลย โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที รระยะทางอยู่ที่ 14.8 กิโลเมตร 
           การเดินทางจากมุกดาหารไปพระธาตุอิงฮัง โดยรถทัวร์เพื่อข้ามพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 โดยต้องขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารมุกดาหาร ค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 50 บาท โดยรถทัวร์จะจอดให้นักท่องเที่ยวลงที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปั๊มตราก่อนข้ามแดน จากนั้นก็ขึ้นคันเดิมค่อรถตุ๊กตุ๊กเพื่อไปยังพระธาตุอิงฮัง
  💖เวลาเปิด-ปิดพระธาตุอิงฮัง💖 สามารถเข้าไปสักการะบูชาพระธาตุได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00น.-16.30น. เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงมีผู้คนมากราบไหว้ไม่ขาดสาย
       💖เวลาที่เหมาะสมในการเข้าชม💖 ช่วงที่นิยมที่สุด คือช่วงฤดูหนาว ปลายตุลาคมเป็นต้นไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากสภาพอากาศเย็นสบายแดดไม่ร้อนจัด
            อีกทั้งในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ขึ้น 13 14 และ 15ค่ำ เดือนอ้าย พระธาตุอิงฮังจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุประจำปี 
        💖สิ่งที่ควรรู้และควรปฏิบัติ💖 นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่นี่จะต้องแต่งกายด้วยการนุ่งซิ่นแบบชาวลาว หรือหากไม่ได้เตรียมมา ที่นี่มีเตรียมไว้ให้ 
          ผู้ที่จะไปกราบไหว้พระธาตุจะต้องซื้อ เครื่องบูชา ลักษณะเหมือนบายศรี ชาวบ้านจะนำมาขายตลอดริมทาง เนื่องจากในบริเวณวัดจะไม่มีเครื่องบูชา มีแต่ธูปเทียนเท่านั้น 


พระธาตุองฮังในช่วงงานเทศเทศกาล
https://mgronline.com/


         ซึ่งในทุกๆปีชาวลาวจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุอิงฮัง เป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่เช่นเดียวกับที่ไทยจัดงานนมัสการพระธาตุพนมนั่นเอง ซึ่งงานทั้งสองนั้นก็จะมีการแห่ขบวนเทียนและการฟ้อนรำถวายองค์พระธาตุเช่นเดียวกัน แต่งานที่พระธาตุอิงฮังนั้นจะจัดช่วงเดือนธันวาคม ส่วนงานพระธาตุพนมนั้นจะจัดช่วงเดือนสาม หรือเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

👉อ้างอิง
            Palanla.(2563).พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว.สืบค้น 18 ตุลาคม 2563.จากhttps://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=242.(ออนไลน์)
            MGR Online.(2560).ไปดูงานนมัสการพระธาตุอิงฮัง ปีนี้พี่น้องชาวลาวมืดฟ้ามัวดิน.สืบค้น 18 ตุลาคม 2563.จาก https://mgronline.com/indochina/detail/9600000121987.(ออนไลน์)
            Nairobroo.(มปป.).สะหวันนะเขตเมืองที่หัวใจเต้นช้า.สืบค้น 18 ตุลาคม 2563.จากhttps://www.nairobroo.com/.(ออนไลน์)



 






วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563

พระราชวังบุเรงนอง แห่งวีรกษัตริย์หงสาวดี

💕พระราชวังบุเรงนอง💕


  

           บุเรงนอง...หากพูดถึงคำๆนี้ แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเขาคนนี้คือกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงหงสาวดีเมื่อครั้งอดีต และยังคงทิ้งตำนานและวีรกรรมสุดแสนยากที่จะลืมให้กับคนรุ่นหลังอย่างเราๆได้ศึกษา เพราะแน่นอนว่าเรามักติดภาพจำของท่านจากวรรณกรรมผู้ชนะสิบทิศ ที่ทำให้เราคุ้นเคยกับภาพพจน์อันสุดยอดของท่าน

💖สถานที่ตั้ง💖
              อยู่ทางตอนใต้ของเจดีย์ชเวมอดอ สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2109 ซึ่งเป็นปีที่15 ของการปกครองในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง ถือเป็นช่วงเรืองอำนาจสูงสุดของกรุงหงสาวดี แต่ได้ทำการขุดพบและสร้างจำลองใหม่ในปีพ.ศ. 2533 

💖ความเป็นมา💖
             สถานที่แห่งนี้พระเจ้าอยู่หัวบุเรงนอง ได้โปรดเกล้าสร้างไว้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครอง ซึ่งพระนเรศวรก็เคยประทับอยู่ ณ ที่แห่งนี้เมื่อทรงถูกจับไปเป็นองค์ประกันแห่ง กรุงหงสาวดี เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ พระเจ้าบุเรงนองรับสั่งให้สร้างพระราชวังแห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่อลังการ โดยภายในตัวกำแพงเมืองชั้นนอกนั้นมีประตูมากถึง 20 ประตู ส่วนพื้นที่ในตัวกำแพงเมืองก็กว้างใหญ่มากๆ แม้แต่พระธาตุมุเตายังนำมาจัดเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองบุเรงนองแห่งนี้ด้วย 
              ต่อมาภายหลังจากที่พระเจ้าบุเรงนองทรงสิ้นพระชนม์ พระเจ้านันทบุเรงก็ขึ้นครองราช แต่ก็ต้องโดนโจมตีจากพวกตองอูและพวกยะไข่ จนตัวเมืองแตกพระราชวังถูกทำลายเกือบหมดสิ้น หลังจากนั้นรัฐบาลพม่าในยุคต่อมาจึงทำได้เพียงขุดเอาแท่งเสาเดิมมารักษาไว้ แล้วสร้างพระราชวังใหม่เลียนแบบของเดิมทั้งหมด แต่จากที่เห็นพระราชวังเป็นสีทองนั้น จึงเป็นของปลอมทั้งหมด เพราะพระราชวังสีทองแบบดั้งเดิมได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว โดยทำการสร้างตัวอาคารใหม่ทับลงไปยังโครงสร้างเดิม 2 ส่วน นั่นคือ 
                ส่วนแรกคือ กัมโพชธานี คือส่วนที่เอาไว้ว่างานราชการ
                ส่วนที่สองคือ บัลลังก์ผึ้ง เอาไว้สำหรับบรรทม 

💖สิ่งที่น่าสนใจภายในพระราชวัง💖
     - บัลลังก์นกยูงจำลอง อันเป็นที่ประทับของพระองค์ขณะออกว่าราชการ และใช้สำหรับต้อนรับแขกบ้าน     
แขกเมือง พร้อมทั้งยังมีเสาขนาดใหญ่ที่ขุดพบมาจัดแสดง และยังมีแผนที่แสดงการขุดค้น ที่ทำให้ทราบว่ายังมีพื้นที่อีกหลายส่วนบริเวณพระราชวังนี้ที่ยังไม่ได้ทำการขุดค้น 
    - ข้าวของเครื่องใช้ในราชวังแบบจำลอง
    - มีข้อมูลประวัติต่างๆให้ศึกษา เพื่อให้เราได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนีเมื่อครั้งอดีต

บัลลังก์นกยูง

เสาขนาดใหญ่ที่ขุดพบ

แท่นที่ประทับ


💖ค่าเข้าชม💖
          - คนละ 10000 จ๊าด หรือประมาณคนละ 240 บาท 
          - สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี  
          
             แม้ว่าพระราชวังบุเรงนองจะถูกทำลายไปนานแล้ว แต่ทางรัฐบาลพม่าก็ได้จัดสร้างจำลองขึ้นมาใหม่โดยอิงจากข้อมูลจิตรกรรมฝาผนังและวรรณกรรมต่างๆ ถึงแม้ว่าความยิ่งใหญ่จะไม่สามารถสู้ของจริงเมื่อครั้งสมัยพระเจ้าบุเรงนองยังมีชีวิตอยู่ แต่การขุดพบสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาและสร้างใหม่อีกครั้ง ก็เป็นการรื้อฟื้นควาทรงจำและแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของคนรุ่นใหม่ที่ยังคงไม่ลืมวีรกษัตริย์แห่งหงสาวดีนั่นเอง 

อ้างอิง
          👍Mthai.(2559).เที่ยวพระราชวังบุเรงนอง พระราชวังของผู้ชนะสิบทิศ.สืบค้น15 ตุลาคม 2563 จาก     
               https://travel.mthai.com/world-travel/72184.html.(ออนไลน์)
          👍 เรารักสุพรรณ.(2559).ไปเที่ยวพม่า ตอนที่11 พระราชวังบุเรงนองที่เมืองหงสาวดี.สืบค้น15 ตุลาคม  2563 จาก http://www.welovesuphan.com/th/.(ออนไลน์)
















                           


    
             


วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2563

วัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งหนึ่งของกัมพูชา

💖 วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ( WAT PHANOM )💖

        วัดพนมเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองพนมเปญ เป็นวัดที่ถือได้ว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของกัมพูชา อีกทั้งยังเป็นวัดที่สร้างขึ้นบนภูเขาสูง 27 เมตรและบริเวณโดยรอบนั้นถูกปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวโบราณจำนวนมาก มีประตูทางเข้าวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนทางขึ้นวัดมีบันไดนาคและรูปปั้นพญานาคพร้อมด้วยสิงห์อีกสองตัว 

BlogGang.com : : travelistaนักเดินทาง : ตะลุย 10 ที่เที่ยวพนมเปญ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id

            💖ความเป็นมาของวัดพนม💖 วัดแห่งนี้ถูกเชื่อและเล่าขานสืบต่อกันมาว่าเป็นที่มาของชื่อเมือง พนมเปญ ซึงวัดแห่งนี้มีอายุถึง 600 ปี โดยตามตำนาน เมื่อ 500 ปีที่แล้วเล่าว่า มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งชื่อ ยายเปญ ได้ไปพบขอนไม้ที่ลอยมาตามแม่น้ำโขง เมื่อเดินเข้าไปดูจึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปห้าองค์ประดิษฐานอยู่ในโพรงของขอนไม้อันนั้น ยายเปญจึงเป็นผู้ที่ไปอัญเชิญพระพุทธรูปห้าองค์นั้นขึ้นมาบนฝั่ง แล้วทำการก่อเนินดินสูง 27 เมตรเพื่อจะสร้างวัดสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปห้าองค์ ชาวบ้านจึงเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดยายพนมเปญ แปลว่า วัดเขายายเปญ เหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ  พนมเปญนั่นเอง ส่วนวัดพนมยายเปญ ปัจจุบันถูกเรียกสั้นๆว่า วัดพนม

        💖สถาปัตยกรรมและสิ่งสวยงามภายในวัด💖  ภายในตัววัดจะมีอาคารหลัก ซึ่งก็คือพระวิหาร ภายในจะมีการประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่มีอายุเก่าแก่ และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงภาพพุทธชาดก และยังมีภาพวาดจากมหากาพย์รามเกียรติย์ให้ชื่นชม 

            ส่วนด้านหลังของพระวิหาร มีเจดีย์ระฆังคว่ำทรงสูง เป็นที่บรรจุพระอัฐิของพระยายาต กษัตรย์เขมรผู้ที่ย้ายราชธานีจากเมืองพระนครหลวงมายังกรุงพนมเปญ 

            นอกจากนี้แล้ววัดพนมยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ ศาลเจ้ายายเปญ เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กที่อยู่ระหว่างตัวพระวิหารและเจดีย์ ชาวบ้านจะนิยมมาสักการะบูชาเพื่อขอพร เนื่องจากเป็นศาลของผู้ที่สร้างวัดแห่งนี้นั่นเอง

วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ตัวอาคารหลักที่ประดิษฐานระพุทธรูปสัมฤทธิ์

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265


วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ภายในพระวิหาร

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265


วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

มีภาพจิตกรรมฝาผนัง

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265


วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ศาลเจ้ายายเปญ

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265


วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา

ด้านหน้าเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิพระยายาต

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265

            💖การเดินทางไปวัดพนม💖 เนื่องจากวัดพนมตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองดังนั้นจึงค่อนข้างสะดวกในการเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปได้  หรืออาจจะเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก ค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 2-4 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือจะเหมาเที่ยวทั้งวันก็ได้ ประมาณ 20 ดอลล่าห์สหรัฐ

            บางท่านอาจจะเรียกแท็กซี่ ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าได้รับความนิยมที่สุดเพราะสะดวกสบายกว่าการนั่งตุ๊กตุ๊ก มีบริการมิเตอร์ค่าโดยสาร  แต่บางส่วนก็นิยมเหมาเที่ยวรอบเมืองทั้งวัน


            💖เวลาเปิด-ปิดทำการ💖 เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 น.-17.00 น. โดยเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมถึงเวลา 16.30 น. ค่าบริการการการเข้าชม ประมาณ 1 ดอลล่าห์/คน

            เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชม โดยปกติกรุงพนมเปญจะมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมตลอดทั้งปีเกือบจะทุกฤดูก็ว่าได้ แต่ที่นิยมที่สุดก็คือ ฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เพราะจะทำให้การเที่ยวชมนั้นเดินได้อย่าสบาย ากาศไม่ร้อนจนเกินไป

            💖ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ก่อนไปวัดพนม💖  เนื่องจากสถานที่แห่งนี้จัดว่าเป็นศาสนสถานที่ได้รับความเคารพจากชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวจะไปเยือนสถานที่แห่งนี้ จึงจำเป็นต้องแต่งกายให้สุภาพ ใส่กระโปรงยาวหรือกางเกงขายาวเท่านั้น งดการใส่เสื้อแขนกุด เป็นต้น

            สุดท้ายนี้จึงกล่าวได้ว่า วัดพนมคือหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์กัมพูชาและได้รับการเคารพจากชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก ผู้คนนิยมมาไหว้ขอพร และเยี่ยมชมศิลปะภายในวัด ด้วยความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ และการมีสสถาปัตยกรรมโดดเด่นทำให้มีนักท่องเที่ยวและประชาชนชาวกัมพูชานิยมมาทำบุญไหว้พระขอพรตลอดทั้งปี


Bloggang.com : ซองขาวเบอร์ 9 : โฮย่า

อ้างอิง  

        Palanla.(2563).วัดพนม เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา.สืบค้น 11 กันยายน 2563.จากhttps://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=265.(ออนไลน์)

        Yougo Igoถ้าคุณไปเราพาไป.(2562).วัดพนม.สืบค้น 11 กันยายน 2563.จากhttps://yougoigo.co/.(ออนไลน์)

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

การเตรียมตัวของมัคคุเทศก์ก่อนปฏิบัติการ

        การจะเป็นมัคคุเทศก์ที่คอยให้บริการและดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะนอกจากจะต้องพอนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆและคอยให้ข้อมูลความรู้แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญของอาชีพมัคคุเทศก์เลยก็คือ การเตรียมตัว ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมในเรื่องของเอกสาร อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้อำนวยความสะดวก การเตรียมข้อมูลและติดต่อประสานงาน และท้ายที่สุด ก็คือการเตรียมความพร้อมของตนเอง ซึ่งรายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ มีดังต่อไปนี้

อาชีพมัคคุเทศก์ ชั้น 3 - TPQI E-Training: More than just an e-Learning.

💓ขั้นตอนการปฏิบัติงานนำเที่ยวของมัคคุเทศก์

การเตรียมตัวก่อนปฏิบัติหน้าที่
    - ศึกษาหาความรู้ในด้านต่างๆ และควรจะหาความรู้เพิ่มเติม ข่าวสารใหม่ๆ ที่ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ
    - ศึกษากิจการของบริษัทนำเที่ยว 
    - สร้างความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทนำเที่ยวที่เราสังกัดอยู่ และเป็นมิตรกับบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะ          ได้คอยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ต่อกัน

การรับมอบหมายงานจากบริษัทนำเที่ยว
    - หากมีความมั่นใจในการทำงาน เราอาจจะเป็นฝ่ายเสนอตัวในการทำทัวร์ต่างๆก็ได้ อย่างน้อยๆก็เพื่อ           สั่งสมประสบการณ์การทำงาน
    - มัคคุเทศก์ไม่ควรโทรศัพท์มาถามรายละเอียดของงานนั้นๆ แต่หากจำเป็นที่ต้องการทราบข้อมูลก็ควร         ที่จะพบหน้าโดยตรง และอาจจะติดตามหาข้อมูลรายละเอียดเอง
    - จำเป็นต้องรู้ข้อมูลส่วนตัวของนักท่องเที่ยวเบื้องต้น เช่น มีโรคประจำตัว หรือแพ้อาหารอะไร
    - ต้องรู้รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบครบถ้วน  เช่น วันเวลาในการเดินทาง ยานพาหนะที่ใช้ใน             การเดินทาง สถานที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และร้านขายของที่ระลึก 
    - ต้องรู้รายละเอียดของการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆระหว่างการนำเที่ยว
    - เตรียมเอกสารและอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อย เช่น กล่องปฐมพยาบาล 
    - ต้องรู้นโยบายข้อตกลง และมาตรการของทางบริษัทท่องเที่ยว ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือเหตุการณ์             ฉุกเฉิน จะได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที

การตรวจสอบเอกสาร การจัดเตรียมอุปกรณ์ และการเตรียมตัวปฏิบัติงาน
    👉ตรวจสอบเอกสาร ประกอบด้วย
    - ตรวจใบงาน
    - ตรวจรายการนำเที่ยวที่ต่างๆ
    - ใบ Voucher หรือสัญญาการซื้อบริการนำเที่ยว
    - สำเนาจดหมายติดต่อธุรกิจระหว่างนำเที่ยว กับสถานประกอบการต่างๆ
    - รายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับจัดที่นักบนรถและบนเครื่องบิน
    - รายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับการจัดการห้องพัก 

    👉สำหรับการออกนอกประเทศ จำเป้นต้องตรวจเอกสาร ดังนี้
    - บัตรโดยสารเครื่องบินของนักท่องเที่ยว
    - แบบฟอร์มการเข้าออกประเทศ และแบบฟอร์มแจ้งรายละเอียดต่อศุลกากรของประเทศที่จะไป
    - หนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยว

    👉จัดเตรียมอุปกรณ์ในการนำเที่ยว
    - ป้ายชื่อหรือสติกเกอร์ สำหรับติดกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว
    - ป้ายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับให้นักท่องเที่ยวติดตัวไว้
    - อาหารว่างและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ น้ำดื่ม
    - เครื่องปฐมพยาบาล
    - เครื่องขยายเสียงแบบพกพา

    👉การเตรียมตัวปฏิบัติงาน
    - เตรียมตัวด้านข้อมูล
    - เตรียมการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆให้เรียบร้อย
    - เตรียมความพร้อมของตัวเอง เช่น ด้านสุขภาพ พยายามออกกำลังกาย ให้ร่างกายแข็งแรงและมี                 ภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ ด้านของใช้ส่วนตัว เช่น อุปกรณ์อาบน้ำ ยาประจำตัว และด้านเอกสารส่วนตัว 

        อาชีพมัุคคุเทศก์เป็นอาชีพที่ต้องทำงานกับคนหมู่มาก ต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ และต้องทำหน้าที่ดูแลให้บริการคนอื่นๆ ดังนั้นการเตรียมตัวในขั้นตอนต่างๆจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการจะเป็นมัคคุเทศก์ที่ดี การให้ข้อมูล ความรู้เฉยๆ อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่นักท่องเที่ยวต้องการ แต่การดูแลเอาใจใส่ เตรียมพร้อมในทุกๆเรื่องของมัคคุเทศก์ อาจจะคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการมากกว่า เพราะการที่พวกเขามาเที่ยว ก็ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเป็นการตอบแทนเช่นกัน 

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

วัดเยิว วัดเก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม

💓 สถานที่ก่อเกิดพุทธศาสนาในเวียดนาม 💓

            วัดเยิวเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ซึ่งตั้งอยู่ตำบลทันเคือง อำเภอถ่วนแถ่ง จังหวัดบั๊กนิงที่อยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 30 กิโลเมตร และได้ถูกจัดว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นแหล่งก่อเกิดพุทธศาสนาในเวียดนามเมื่อครั้งอดีตอีกด้วย


https://vovworld.vn/


https://vovworld.vn/


💗 หนังสือบันทึกทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม  ระบุไว้ว่า วัดแห่งนี้ได้ก่อสร้างเมื่อปี 187 และเสร็จสิ้นเมื่อปี 226 บริเวณพื้นที่กำแพงลิวเลวเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาแห่งแรกนเวียดนาม และเก่าแก่ที่สุดในเวียดนามที่มีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับพุทธศาสนา 

        ศาสตราจารย์เจิ่นเลิมเบี่ยน เขาคือนักศึกษาวิจัยของสภามรดกเวียดนามเผยว่า วัดเยิวมีความพิเศษ เพราะหากได้รู้และทำการศึกษาเกี่ยวกับวัดแห่งนี้อย่างถ่องแท้ก็จะสามารถเข้าใจประวัติศาสต์ของประเทศเวียดนามได้ โดยได้อ้างประวัติแห่งนี้ว่า " เมื่อก่อนบริเวณที่ตั้งตรงนี้คือเขตรอยต่อระหว่างที่ราบสูงและที่ราบลุ่ม เนื่องจากชาวเวียดนามสมัยโบราณได้อพยพย้ายถิ่นฐานจากพื้นที่ป่าเขาลงมาอาศัยบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ เพราะชาวเวียมนามสมัยก่อนต้องอาศัยน้ำฝนในการจัดทำพิธีบวงสรวงต่างๆ และเอาไว้เพื่อดำรงชีวิต จึงมีพิธีบวงสรวงขอฝนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล สาเหตุนี้เองที่ทำให้ชาวเวียดนามมีความศรัทธาเลื่อมใสต่อการขอฝนและการขอพรเทพเจ้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับฝน ชาวบ้านจึงเริ่มทำกันต่อๆมาจนเป็นพิธีเพื่อต้องการให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และเก็บเกี่ยวผลผลิตต่างๆได้ตามฤดูกาลและนี่คือสาเหตุขอการก่อตั้งวัดในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองรวมทั้งวัดเยิวด้วย "


วัดเยิว-ความภาคภูมิใจของชาวกิง บั๊ก

https://vovworld.vn/


        ปัจจุบันวัดเยิวแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างและบูรณะใหม่เนื่องจากเป็นวัดเก่า บางอย่างย่อมโทรมไปตามกาลเวลา โดยทำการปฏิสังขรตามสถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์เลตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 ภายในตัววัดเยิวนั้นมีโบสถ์หลายแห่ง เช่น บางโบสถ์ก็จะมีการประดิษฐานพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึงมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เจดีย์ใหญ่หว่าฟอง มีลักษณะเด่นคือ สูงสง่าก่อสร้างด้วยอิฐก้อนใหญ่ เดิมทีเจดีย์หว่าฟองมีทั้งหมด 9 ชั้นแต่ทรุดโทรมตามกาลเวลาตอนนี้จึงเหลือให้รับชมเพียงแค่ 3 ชั้น สมัยนั้นที่สร้างสูงถึง9 ชั้น เนื่องจากชาวเวียดนามนับถือฝน การสร้างให้สูงเสียดฟ้าถือเป็นการถวายเทพเจ้าฝนและเพื่อขอฝนให้ตกตามฤดูกาลนั่นเอง 

        เจดีย์หว่าฟอง มีความหมายในทางพุทธศาสนาว่า การไม่แบ่งแยกชนชั้นฐานะ โดยภายในจะมีรูปปั้นพระที่ประดิษฐานสูงประมาณ 2 เมตร อยู่ตรงกลางของโบสถ์หน้าตาสวยมาก จนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม เพราะมีลักษณะคล้ายนางรำของอินเดีย นั่นก็คือรูปนางเยิว เทพเจ้าฟาบเวินและฟาบหวู หรือที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งเมฆ 


วัดเยิว- วัดที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม - ảnh 2

https://vovworld.vn/

        จึงถือได้ว่า วัดเก่าแก่แห่งนี้ของชาวเวียดนามได้ฝังความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่ผู้คนที่นั่น จึงนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของทางเวียดนามเหนือ และได้รับการรับรองเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติจากกระทรวงวัฒนธรรม

        นอกจากนี้ยังทำให้ทราบว่าอีกว่า วัดเยิวยังเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่สะท้อนความศรัทธาของชาวเวียดนามกับพระพุทธศาสนาได้อย่างกลมกลืน เพราะมีการบูชาพระพุทธรูป เจ้าแม่กวนอิม พระอรหันต์และยังมีการเก็บรักษาสิ่งของวัตถุโบราณที่มีค่าเอาไว้ เช่นมีการเก็บแม่พิมพ์ไม้เกี่ยวกับเทพเจ้าแห่งเมฆ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1752 ต่อมาเมื่อปี 2013 วัดเยิวได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกพิเศษของชาติ นายเจิ่น ดิ่งห์ เหลียน รองนายกสมาคมประวัติศาสตร์ ได้ออกมาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคุณค่าของสถานที่แห่งนี้ว่า เราควรที่จะรับรู้ถึงความเป็นมาและควรช่วยกันอนุรักษ์สถานที่ทางศาสนาของชาติเอาไว้

        ซึ่งถึงแม้ระยะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน วัดเยิวแห่งนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นจุดสำคัญของพุทธศาสนาที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติมากราบไหว้ นมัสการ เพื่อเป็นการระลึกถึงการกลับสู่ผืนดินแห่งพุทธศาสนา และเพื่อศึกษาค้นคว้าศิลปะสถาปัตยกรรมทีมีความโดfเด่นที่มีประวัติศาสตร์น่าจดจำ จนต่อมาวัดแห่งนี้ได้มีงานเทศกาลเพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และเพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บกี่ยวผลผลิตได้อย่างเต็มที่ โดยมีกิจกรรมต่างๆมากมายในเทศกาลวัดเยิวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีพระภิกษุสามเณร พุทธศาสนิกชนทั้งหลายมาร่วมเป็นจำนวนมาก ถือได้ว่าเป็นเทศกาลทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของเขตที่ราบแม่น้ำแดงทางภาคเหนือของเวียดนามนั่นเอง


แหล่งที่มา

💚 VOV5.VN สถานีวิทยุแห่งเวียดนามส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติ.วัดเยิว ความภูมิใจของชาวกรุงกิง บั๊ก.จาก https://vovworld.vn/.(ออนไลน์).สืบค้น 24 สิงหาคม 2563

💙 VOV5.VNสถานีวิทยุแห่งเวียดนามส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติ.วัดเก่าแก่ทีสุดของเวียดนาม.จาก https://vovworld.vn/th-TH/.(ออนไลน์).สืบค้น 24 สิงหาคม 2563











วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เรื่องราวน่ารู้สำหรับการเป็นไกด์ที่ดี

 การสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว


มัคคุเทศก์ หรือไกด์ - Website1_60_Bp

            อาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์  ก็คืออาชีพที่ต้องทำงานคลุกคลีอยู่กับนักท่องเที่ยว เพื่อพาพวกเขาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และคอยแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ และที่สำคัญจะต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้กับนักท่องเที่ยว แต่การจะเป็นไกด์ที่ดีไม่เพียงแต่ให้ความรู้นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบและเทคนิคอื่นๆอีก ซึ่งจะมีเทคนิคอะไรน่าสนใจนั้น ดิฉันก็ได้รวบรวมข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ค่ะ

        💖ต้องรู้กระบวนการทำงานของมัคคุเทศก์ ซึ่งก่อนที่เราจะเริ่มให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวนั้น เราต้องรู้ข้อมูลของสถานที่นั้นๆก่อน แล้ววิเคราะห์กลั่นกรองออกมาเพื่อถ่ายทอดสารเหล่านั้นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ 
        อีกทั้งเรายังต้องคำนึงถึงกฏเกณฑ์ต่างๆของสถานที่นั้นๆด้วย โดยเราจะต้องแจ้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำให้แก่นักท่องเที่ยวได้ทราบโดยทั่วกัน เช่น เรื่องการแต่งกาย หากเราพานักท่องเที่ยวไปยังวัด เราก็จะต้องกำชับว่า นักท่องเที่ยวควรแต่งกายอย่างไร เป็นต้น  และที่สำคัญในแต่ละที่ที่เราพาไปนั้น สิ่งแวดล้อมโดยรอบอาจจะต่างกัน นักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่คุ้นชินกับเส้นทาง เราเป็นไกด์ เราควรเตือนและบอกให้นักท่องเที่ยวระวังเป็นพิเศษ เช่น ทางนั้นเป็นทางลาดชัน หรือเส้นทางนั้นพื้นลื่น เราควรใส่ใจถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ และควรดูแลพวกเขาอย่างทั่วถึง
        ในกรณีที่นักท่องเที่ยวหลายคน อาจจะยากต่อการควบคุม เวลาปล่อยให้นักท่องเที่ยวรับชมสถานที่นั้นๆ อาจเกิดการพลัดหลงได้ ไกด์ที่ดีควรแจ้งสถานที่นัดพบไว้ล่วงหน้า  เผื่อกรณีฉุกเฉิน  


     💖ต้องรู้เนื้อหาที่ควรนำเสนอ  การเป็นมัคคุเทศก์ทีดีไม่ใช่แค่การจำสคริปทั้งหมดเพื่อพูดให้นักท่องเที่ยวฟัง แต่การที่เราจะถ่ายทอดอะไรออกไปนั้น เราต้องดูความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ หมายความว่า หากเราสังเกตแล้วว่านักท่องเที่ยวมีความอยากรู้ สนใจกับสถานที่นั้นเป็นพิเศษ เราก็ควรที่จะอธิบายเนื้อหาสาระต่างๆ ให้ครอบคลุม และอาจจะมีการเพิ่มเติมเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย แต่ถ้าหากการนำเที่ยวครั้งนั้นมีระยะเวบาจำจัด เราก็ควรที่จะพูดแต่เนื้อหาสาระที่จำเป็น กระชับ และควรเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ซักถาม เป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างไกด์กับนักท่องเที่ยวนั่นเอง


     💖ต้องรู้เทคนิคการนำชม / การพูด  การจะพูดหรือสื่อสารอะไรก็ตามให้คนสนใจ สิ่งแรกที่ต้องมี นั่นคือ ความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องบุคลิกภาพ การพูดที่ฉะฉาน เพื่อให้ผู้ฟังจับจ้องและมั่นใจในการรับสารที่ไกด์ถ่ายทอดออกมา ต้องมีความเชื่อมั่นในทุกการกระทำไม่ว่าจะเป็นการยืน เราต้องยืนหันหน้าไปที่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยิ้มแย้มแจ่มใส สบตากับนักท่องเที่ยว เพื่อการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยว
        ในช่วงที่นำนักท่องเที่ยวเดิน ก็ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการให้ข้อมูล  เช่น เลือกสถานที่ที่ไม่ร้อน มองเห็นจุดสำคัญและจุดเชื่อมโยงได้ชัดเจน 
        ในส่วนของการพูดอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ต้องกระชับ ฉะฉาน มีการใช้โทนเสียง  หนักเบาสูงต่ำ อาจมีท่าทางประกอบเพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่ละสายตาไปจากสิ่งที่เราจะพูด หรือเป็นการช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในสิ่งที่เราจะพูดมากขึ้้น  อีกทั้งหากจำเป็นที่ต้องใช้คำศัพท์เฉพาะ ก็ควรที่จะพูดคำนั้นให้ชัดเจน แล้วค่อยอธิบายคำนั้นให้ชัดเจน  และควรใช้คำที่บ่งบอกถึงสิ่งที่พูดให้ชัดยิ่งขึ้น เช่น ใช้คำที่บ่งบอกสี บ่งบอกรูปร่างขนาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมองเห็นจุดสังเกตง่ายๆ และเห็นภาพประกอบ 
        และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ  ไม่ว่าจะให้ความรู้แนะนำสาระอะไรไปบ้างแล้วก็ตาม เราทิ้งท้ายให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสซักถาม แล้วการที่เราจะตอบคำถามนักท่องเที่ยวนั้น เราต้องใช้ไหวพริบมีการทวนคำถามเล็กน้อย เพราะสำเนียงภาษาของนักท่องเที่ยวก็จะแตกต่างกัน การทวนคำถามจึงเป็นการให้เวลาไกด์ได้คิดทบทวนคำตอบก่อนจะตอบคำถามเหล่านั้นออกมานั่นเอง


อาชีพในอนาคตของฉัน: อาชีพในอนาคต
                                                   

                                                     

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ยุคหินเก่า หินใหม่ จนเข้าสู่ความเจริญในยุคอารยธรรม

    

การเปลี่ยนแปลงสู่ความเจริญในแต่ละยุคของมนุษย์




    มนุษย์ในแต่ละยุคสมัยล้วนมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่าง ซึ่งในแต่ละยุคนั้นมนุษย์ก็จะมีการพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ มีการปรับเปลี่ยน เรียนรู้วิถีธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดอยู่เสมอ  โดยจะขออธิบายการเปลี่ยนต่างๆเหล่านั้นผ่าน 3 ยุคสมัย ได้แก่ หินเก่า หินใหม่ และการก่อเกิดเป็นอารยธรรมในเวลาต่อมา

   - หินเก่า เดิมที่มนุษย์ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตโดยการออกล่าสัตว์ มีการใช้เครื่องมือหิน และเริ่มเรียนรู้ธรรมชาติโดยการใช้ไฟ มีการพัฒนาภาษา มีการฝังศพ เครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะหยาบ มนุษย์ยุคนี้เริ่มอยู่อาศัยกันเป็นกลุ่ม เริ่มเห็นถึงการอยู่อาศัยที่เรียกว่า สังคม 

ประวัติศาสตร์ไทย: สมัยยุคหินกลาง

   - หินใหม่  ถือว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากมนุษย์เริ่มมีพัฒนาการในการดำรงชีวิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการตั้งที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เริ่มรู้จักปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ กลายเป็นสังคมเกษตรกรรม เรียกยุคนี้ว่า ยุคปฏิวัติเกษตรกรรม ส่วนเครื่องมือที่ใช้ก็มีความละเอียดประณีตเอื้อต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ระบบวิถีชีวิตมีการขยายตัวมาก ซับซ้อน เริ่มมีกฏเกณฑ์ที่ใช้กำหนดการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ และมีสถานะทางสังคมที่ชัดเจนขึ้น 


นักวิทย์พบ กลุ่มคนยุคหินใหม่สุดแปลก จับปลาทานเป็นหลักไม่เลิก แม้ ...

  ***  จะเห็นได้ว่าพัฒนาการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตั้งแต่ยุคหินเก่ามาจนถึงหินใหม่ มนุษย์พยายามเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจริญก่อเกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ เมื่อมนุษย์รู้จักภาษา รู้จักกฏเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน สังคมมนุษย์ก็ขยับขยายก่อเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ สังคมมีความซับซ้อน เกิดการแข่งขัน เกิดสงคราม เพื่อแย่งชิงอาณาเขตและทรัพยากร  ดังนั้นมนุษย์ในแต่ลละพื้นที่จึงพยายามพัฒนาสังคมความเป็นอยู่ของตนเอง จนเกิดเป็นวัฒนธรรมในกลุ่มชน และสืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นอารยธรรมที่มีความเจริญและเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง ***


ประวัติยุคโบราณ ยุคหิน และ สมัยประวัติศาสตร์ของตะวันตก | by ...
    
    ซึ่งถึงแม้ว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะมาพร้อมกับความเจริญของอารยธรรม แต่ทุกอารยธรรมล้วนต้องมีความสัมพันธ์กับอารยธรรมอื่นๆด้วยกันเสมอ ไม่มีอารยธณรมไหนที่จะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากอารยธรรมนั้นอ่อนแอ ก็จะส่งผลต่อการถูกกลืนโดยอารยธรรมความเจริญที่แข็งแรงกว่า 


พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองชาวสะหวันนะเขต

  💕 พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว 💕 https://www.nairobroo.com/            💖 พระธาตุอิงฮัง 💖  คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง...