วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

การเตรียมตัวของมัคคุเทศก์ก่อนปฏิบัติการ

        การจะเป็นมัคคุเทศก์ที่คอยให้บริการและดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะนอกจากจะต้องพอนักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆและคอยให้ข้อมูลความรู้แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญของอาชีพมัคคุเทศก์เลยก็คือ การเตรียมตัว ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมในเรื่องของเอกสาร อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้อำนวยความสะดวก การเตรียมข้อมูลและติดต่อประสานงาน และท้ายที่สุด ก็คือการเตรียมความพร้อมของตนเอง ซึ่งรายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ มีดังต่อไปนี้

อาชีพมัคคุเทศก์ ชั้น 3 - TPQI E-Training: More than just an e-Learning.

💓ขั้นตอนการปฏิบัติงานนำเที่ยวของมัคคุเทศก์

การเตรียมตัวก่อนปฏิบัติหน้าที่
    - ศึกษาหาความรู้ในด้านต่างๆ และควรจะหาความรู้เพิ่มเติม ข่าวสารใหม่ๆ ที่ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ
    - ศึกษากิจการของบริษัทนำเที่ยว 
    - สร้างความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทนำเที่ยวที่เราสังกัดอยู่ และเป็นมิตรกับบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะ          ได้คอยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ต่อกัน

การรับมอบหมายงานจากบริษัทนำเที่ยว
    - หากมีความมั่นใจในการทำงาน เราอาจจะเป็นฝ่ายเสนอตัวในการทำทัวร์ต่างๆก็ได้ อย่างน้อยๆก็เพื่อ           สั่งสมประสบการณ์การทำงาน
    - มัคคุเทศก์ไม่ควรโทรศัพท์มาถามรายละเอียดของงานนั้นๆ แต่หากจำเป็นที่ต้องการทราบข้อมูลก็ควร         ที่จะพบหน้าโดยตรง และอาจจะติดตามหาข้อมูลรายละเอียดเอง
    - จำเป็นต้องรู้ข้อมูลส่วนตัวของนักท่องเที่ยวเบื้องต้น เช่น มีโรคประจำตัว หรือแพ้อาหารอะไร
    - ต้องรู้รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบครบถ้วน  เช่น วันเวลาในการเดินทาง ยานพาหนะที่ใช้ใน             การเดินทาง สถานที่พักโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และร้านขายของที่ระลึก 
    - ต้องรู้รายละเอียดของการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆระหว่างการนำเที่ยว
    - เตรียมเอกสารและอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อย เช่น กล่องปฐมพยาบาล 
    - ต้องรู้นโยบายข้อตกลง และมาตรการของทางบริษัทท่องเที่ยว ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือเหตุการณ์             ฉุกเฉิน จะได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที

การตรวจสอบเอกสาร การจัดเตรียมอุปกรณ์ และการเตรียมตัวปฏิบัติงาน
    👉ตรวจสอบเอกสาร ประกอบด้วย
    - ตรวจใบงาน
    - ตรวจรายการนำเที่ยวที่ต่างๆ
    - ใบ Voucher หรือสัญญาการซื้อบริการนำเที่ยว
    - สำเนาจดหมายติดต่อธุรกิจระหว่างนำเที่ยว กับสถานประกอบการต่างๆ
    - รายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับจัดที่นักบนรถและบนเครื่องบิน
    - รายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับการจัดการห้องพัก 

    👉สำหรับการออกนอกประเทศ จำเป้นต้องตรวจเอกสาร ดังนี้
    - บัตรโดยสารเครื่องบินของนักท่องเที่ยว
    - แบบฟอร์มการเข้าออกประเทศ และแบบฟอร์มแจ้งรายละเอียดต่อศุลกากรของประเทศที่จะไป
    - หนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยว

    👉จัดเตรียมอุปกรณ์ในการนำเที่ยว
    - ป้ายชื่อหรือสติกเกอร์ สำหรับติดกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว
    - ป้ายชื่อนักท่องเที่ยวสำหรับให้นักท่องเที่ยวติดตัวไว้
    - อาหารว่างและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ น้ำดื่ม
    - เครื่องปฐมพยาบาล
    - เครื่องขยายเสียงแบบพกพา

    👉การเตรียมตัวปฏิบัติงาน
    - เตรียมตัวด้านข้อมูล
    - เตรียมการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆให้เรียบร้อย
    - เตรียมความพร้อมของตัวเอง เช่น ด้านสุขภาพ พยายามออกกำลังกาย ให้ร่างกายแข็งแรงและมี                 ภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ ด้านของใช้ส่วนตัว เช่น อุปกรณ์อาบน้ำ ยาประจำตัว และด้านเอกสารส่วนตัว 

        อาชีพมัุคคุเทศก์เป็นอาชีพที่ต้องทำงานกับคนหมู่มาก ต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ และต้องทำหน้าที่ดูแลให้บริการคนอื่นๆ ดังนั้นการเตรียมตัวในขั้นตอนต่างๆจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการจะเป็นมัคคุเทศก์ที่ดี การให้ข้อมูล ความรู้เฉยๆ อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่นักท่องเที่ยวต้องการ แต่การดูแลเอาใจใส่ เตรียมพร้อมในทุกๆเรื่องของมัคคุเทศก์ อาจจะคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการมากกว่า เพราะการที่พวกเขามาเที่ยว ก็ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเป็นการตอบแทนเช่นกัน 

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

วัดเยิว วัดเก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม

💓 สถานที่ก่อเกิดพุทธศาสนาในเวียดนาม 💓

            วัดเยิวเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ซึ่งตั้งอยู่ตำบลทันเคือง อำเภอถ่วนแถ่ง จังหวัดบั๊กนิงที่อยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 30 กิโลเมตร และได้ถูกจัดว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นแหล่งก่อเกิดพุทธศาสนาในเวียดนามเมื่อครั้งอดีตอีกด้วย


https://vovworld.vn/


https://vovworld.vn/


💗 หนังสือบันทึกทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม  ระบุไว้ว่า วัดแห่งนี้ได้ก่อสร้างเมื่อปี 187 และเสร็จสิ้นเมื่อปี 226 บริเวณพื้นที่กำแพงลิวเลวเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาแห่งแรกนเวียดนาม และเก่าแก่ที่สุดในเวียดนามที่มีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับพุทธศาสนา 

        ศาสตราจารย์เจิ่นเลิมเบี่ยน เขาคือนักศึกษาวิจัยของสภามรดกเวียดนามเผยว่า วัดเยิวมีความพิเศษ เพราะหากได้รู้และทำการศึกษาเกี่ยวกับวัดแห่งนี้อย่างถ่องแท้ก็จะสามารถเข้าใจประวัติศาสต์ของประเทศเวียดนามได้ โดยได้อ้างประวัติแห่งนี้ว่า " เมื่อก่อนบริเวณที่ตั้งตรงนี้คือเขตรอยต่อระหว่างที่ราบสูงและที่ราบลุ่ม เนื่องจากชาวเวียดนามสมัยโบราณได้อพยพย้ายถิ่นฐานจากพื้นที่ป่าเขาลงมาอาศัยบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ เพราะชาวเวียมนามสมัยก่อนต้องอาศัยน้ำฝนในการจัดทำพิธีบวงสรวงต่างๆ และเอาไว้เพื่อดำรงชีวิต จึงมีพิธีบวงสรวงขอฝนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล สาเหตุนี้เองที่ทำให้ชาวเวียดนามมีความศรัทธาเลื่อมใสต่อการขอฝนและการขอพรเทพเจ้าต่างๆ ที่เกี่ยวกับฝน ชาวบ้านจึงเริ่มทำกันต่อๆมาจนเป็นพิธีเพื่อต้องการให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และเก็บเกี่ยวผลผลิตต่างๆได้ตามฤดูกาลและนี่คือสาเหตุขอการก่อตั้งวัดในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองรวมทั้งวัดเยิวด้วย "


วัดเยิว-ความภาคภูมิใจของชาวกิง บั๊ก

https://vovworld.vn/


        ปัจจุบันวัดเยิวแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างและบูรณะใหม่เนื่องจากเป็นวัดเก่า บางอย่างย่อมโทรมไปตามกาลเวลา โดยทำการปฏิสังขรตามสถาปัตยกรรมในสมัยราชวงศ์เลตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 ภายในตัววัดเยิวนั้นมีโบสถ์หลายแห่ง เช่น บางโบสถ์ก็จะมีการประดิษฐานพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึงมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เจดีย์ใหญ่หว่าฟอง มีลักษณะเด่นคือ สูงสง่าก่อสร้างด้วยอิฐก้อนใหญ่ เดิมทีเจดีย์หว่าฟองมีทั้งหมด 9 ชั้นแต่ทรุดโทรมตามกาลเวลาตอนนี้จึงเหลือให้รับชมเพียงแค่ 3 ชั้น สมัยนั้นที่สร้างสูงถึง9 ชั้น เนื่องจากชาวเวียดนามนับถือฝน การสร้างให้สูงเสียดฟ้าถือเป็นการถวายเทพเจ้าฝนและเพื่อขอฝนให้ตกตามฤดูกาลนั่นเอง 

        เจดีย์หว่าฟอง มีความหมายในทางพุทธศาสนาว่า การไม่แบ่งแยกชนชั้นฐานะ โดยภายในจะมีรูปปั้นพระที่ประดิษฐานสูงประมาณ 2 เมตร อยู่ตรงกลางของโบสถ์หน้าตาสวยมาก จนสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม เพราะมีลักษณะคล้ายนางรำของอินเดีย นั่นก็คือรูปนางเยิว เทพเจ้าฟาบเวินและฟาบหวู หรือที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งเมฆ 


วัดเยิว- วัดที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม - ảnh 2

https://vovworld.vn/

        จึงถือได้ว่า วัดเก่าแก่แห่งนี้ของชาวเวียดนามได้ฝังความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่ผู้คนที่นั่น จึงนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของทางเวียดนามเหนือ และได้รับการรับรองเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมระดับชาติจากกระทรวงวัฒนธรรม

        นอกจากนี้ยังทำให้ทราบว่าอีกว่า วัดเยิวยังเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่สะท้อนความศรัทธาของชาวเวียดนามกับพระพุทธศาสนาได้อย่างกลมกลืน เพราะมีการบูชาพระพุทธรูป เจ้าแม่กวนอิม พระอรหันต์และยังมีการเก็บรักษาสิ่งของวัตถุโบราณที่มีค่าเอาไว้ เช่นมีการเก็บแม่พิมพ์ไม้เกี่ยวกับเทพเจ้าแห่งเมฆ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1752 ต่อมาเมื่อปี 2013 วัดเยิวได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกพิเศษของชาติ นายเจิ่น ดิ่งห์ เหลียน รองนายกสมาคมประวัติศาสตร์ ได้ออกมาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคุณค่าของสถานที่แห่งนี้ว่า เราควรที่จะรับรู้ถึงความเป็นมาและควรช่วยกันอนุรักษ์สถานที่ทางศาสนาของชาติเอาไว้

        ซึ่งถึงแม้ระยะเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน วัดเยิวแห่งนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นจุดสำคัญของพุทธศาสนาที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติมากราบไหว้ นมัสการ เพื่อเป็นการระลึกถึงการกลับสู่ผืนดินแห่งพุทธศาสนา และเพื่อศึกษาค้นคว้าศิลปะสถาปัตยกรรมทีมีความโดfเด่นที่มีประวัติศาสตร์น่าจดจำ จนต่อมาวัดแห่งนี้ได้มีงานเทศกาลเพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และเพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บกี่ยวผลผลิตได้อย่างเต็มที่ โดยมีกิจกรรมต่างๆมากมายในเทศกาลวัดเยิวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีพระภิกษุสามเณร พุทธศาสนิกชนทั้งหลายมาร่วมเป็นจำนวนมาก ถือได้ว่าเป็นเทศกาลทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของเขตที่ราบแม่น้ำแดงทางภาคเหนือของเวียดนามนั่นเอง


แหล่งที่มา

💚 VOV5.VN สถานีวิทยุแห่งเวียดนามส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติ.วัดเยิว ความภูมิใจของชาวกรุงกิง บั๊ก.จาก https://vovworld.vn/.(ออนไลน์).สืบค้น 24 สิงหาคม 2563

💙 VOV5.VNสถานีวิทยุแห่งเวียดนามส่วนกระจายเสียงต่างประเทศแห่งชาติ.วัดเก่าแก่ทีสุดของเวียดนาม.จาก https://vovworld.vn/th-TH/.(ออนไลน์).สืบค้น 24 สิงหาคม 2563











วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เรื่องราวน่ารู้สำหรับการเป็นไกด์ที่ดี

 การสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว


มัคคุเทศก์ หรือไกด์ - Website1_60_Bp

            อาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์  ก็คืออาชีพที่ต้องทำงานคลุกคลีอยู่กับนักท่องเที่ยว เพื่อพาพวกเขาเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และคอยแนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ และที่สำคัญจะต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้กับนักท่องเที่ยว แต่การจะเป็นไกด์ที่ดีไม่เพียงแต่ให้ความรู้นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบและเทคนิคอื่นๆอีก ซึ่งจะมีเทคนิคอะไรน่าสนใจนั้น ดิฉันก็ได้รวบรวมข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้ค่ะ

        💖ต้องรู้กระบวนการทำงานของมัคคุเทศก์ ซึ่งก่อนที่เราจะเริ่มให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวนั้น เราต้องรู้ข้อมูลของสถานที่นั้นๆก่อน แล้ววิเคราะห์กลั่นกรองออกมาเพื่อถ่ายทอดสารเหล่านั้นให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือได้ 
        อีกทั้งเรายังต้องคำนึงถึงกฏเกณฑ์ต่างๆของสถานที่นั้นๆด้วย โดยเราจะต้องแจ้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำให้แก่นักท่องเที่ยวได้ทราบโดยทั่วกัน เช่น เรื่องการแต่งกาย หากเราพานักท่องเที่ยวไปยังวัด เราก็จะต้องกำชับว่า นักท่องเที่ยวควรแต่งกายอย่างไร เป็นต้น  และที่สำคัญในแต่ละที่ที่เราพาไปนั้น สิ่งแวดล้อมโดยรอบอาจจะต่างกัน นักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่คุ้นชินกับเส้นทาง เราเป็นไกด์ เราควรเตือนและบอกให้นักท่องเที่ยวระวังเป็นพิเศษ เช่น ทางนั้นเป็นทางลาดชัน หรือเส้นทางนั้นพื้นลื่น เราควรใส่ใจถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ และควรดูแลพวกเขาอย่างทั่วถึง
        ในกรณีที่นักท่องเที่ยวหลายคน อาจจะยากต่อการควบคุม เวลาปล่อยให้นักท่องเที่ยวรับชมสถานที่นั้นๆ อาจเกิดการพลัดหลงได้ ไกด์ที่ดีควรแจ้งสถานที่นัดพบไว้ล่วงหน้า  เผื่อกรณีฉุกเฉิน  


     💖ต้องรู้เนื้อหาที่ควรนำเสนอ  การเป็นมัคคุเทศก์ทีดีไม่ใช่แค่การจำสคริปทั้งหมดเพื่อพูดให้นักท่องเที่ยวฟัง แต่การที่เราจะถ่ายทอดอะไรออกไปนั้น เราต้องดูความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ หมายความว่า หากเราสังเกตแล้วว่านักท่องเที่ยวมีความอยากรู้ สนใจกับสถานที่นั้นเป็นพิเศษ เราก็ควรที่จะอธิบายเนื้อหาสาระต่างๆ ให้ครอบคลุม และอาจจะมีการเพิ่มเติมเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย แต่ถ้าหากการนำเที่ยวครั้งนั้นมีระยะเวบาจำจัด เราก็ควรที่จะพูดแต่เนื้อหาสาระที่จำเป็น กระชับ และควรเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ซักถาม เป็นการเพิ่มปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างไกด์กับนักท่องเที่ยวนั่นเอง


     💖ต้องรู้เทคนิคการนำชม / การพูด  การจะพูดหรือสื่อสารอะไรก็ตามให้คนสนใจ สิ่งแรกที่ต้องมี นั่นคือ ความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องบุคลิกภาพ การพูดที่ฉะฉาน เพื่อให้ผู้ฟังจับจ้องและมั่นใจในการรับสารที่ไกด์ถ่ายทอดออกมา ต้องมีความเชื่อมั่นในทุกการกระทำไม่ว่าจะเป็นการยืน เราต้องยืนหันหน้าไปที่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยิ้มแย้มแจ่มใส สบตากับนักท่องเที่ยว เพื่อการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยว
        ในช่วงที่นำนักท่องเที่ยวเดิน ก็ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการให้ข้อมูล  เช่น เลือกสถานที่ที่ไม่ร้อน มองเห็นจุดสำคัญและจุดเชื่อมโยงได้ชัดเจน 
        ในส่วนของการพูดอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ต้องกระชับ ฉะฉาน มีการใช้โทนเสียง  หนักเบาสูงต่ำ อาจมีท่าทางประกอบเพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่ละสายตาไปจากสิ่งที่เราจะพูด หรือเป็นการช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจในสิ่งที่เราจะพูดมากขึ้้น  อีกทั้งหากจำเป็นที่ต้องใช้คำศัพท์เฉพาะ ก็ควรที่จะพูดคำนั้นให้ชัดเจน แล้วค่อยอธิบายคำนั้นให้ชัดเจน  และควรใช้คำที่บ่งบอกถึงสิ่งที่พูดให้ชัดยิ่งขึ้น เช่น ใช้คำที่บ่งบอกสี บ่งบอกรูปร่างขนาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมองเห็นจุดสังเกตง่ายๆ และเห็นภาพประกอบ 
        และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ  ไม่ว่าจะให้ความรู้แนะนำสาระอะไรไปบ้างแล้วก็ตาม เราทิ้งท้ายให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสซักถาม แล้วการที่เราจะตอบคำถามนักท่องเที่ยวนั้น เราต้องใช้ไหวพริบมีการทวนคำถามเล็กน้อย เพราะสำเนียงภาษาของนักท่องเที่ยวก็จะแตกต่างกัน การทวนคำถามจึงเป็นการให้เวลาไกด์ได้คิดทบทวนคำตอบก่อนจะตอบคำถามเหล่านั้นออกมานั่นเอง


อาชีพในอนาคตของฉัน: อาชีพในอนาคต
                                                   

                                                     

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ยุคหินเก่า หินใหม่ จนเข้าสู่ความเจริญในยุคอารยธรรม

    

การเปลี่ยนแปลงสู่ความเจริญในแต่ละยุคของมนุษย์




    มนุษย์ในแต่ละยุคสมัยล้วนมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่าง ซึ่งในแต่ละยุคนั้นมนุษย์ก็จะมีการพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ มีการปรับเปลี่ยน เรียนรู้วิถีธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดอยู่เสมอ  โดยจะขออธิบายการเปลี่ยนต่างๆเหล่านั้นผ่าน 3 ยุคสมัย ได้แก่ หินเก่า หินใหม่ และการก่อเกิดเป็นอารยธรรมในเวลาต่อมา

   - หินเก่า เดิมที่มนุษย์ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตโดยการออกล่าสัตว์ มีการใช้เครื่องมือหิน และเริ่มเรียนรู้ธรรมชาติโดยการใช้ไฟ มีการพัฒนาภาษา มีการฝังศพ เครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะหยาบ มนุษย์ยุคนี้เริ่มอยู่อาศัยกันเป็นกลุ่ม เริ่มเห็นถึงการอยู่อาศัยที่เรียกว่า สังคม 

ประวัติศาสตร์ไทย: สมัยยุคหินกลาง

   - หินใหม่  ถือว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากมนุษย์เริ่มมีพัฒนาการในการดำรงชีวิตที่ก้าวหน้ามากขึ้น เนื่องจากเริ่มมีการตั้งที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เริ่มรู้จักปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ กลายเป็นสังคมเกษตรกรรม เรียกยุคนี้ว่า ยุคปฏิวัติเกษตรกรรม ส่วนเครื่องมือที่ใช้ก็มีความละเอียดประณีตเอื้อต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ระบบวิถีชีวิตมีการขยายตัวมาก ซับซ้อน เริ่มมีกฏเกณฑ์ที่ใช้กำหนดการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ และมีสถานะทางสังคมที่ชัดเจนขึ้น 


นักวิทย์พบ กลุ่มคนยุคหินใหม่สุดแปลก จับปลาทานเป็นหลักไม่เลิก แม้ ...

  ***  จะเห็นได้ว่าพัฒนาการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตั้งแต่ยุคหินเก่ามาจนถึงหินใหม่ มนุษย์พยายามเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจริญก่อเกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ เมื่อมนุษย์รู้จักภาษา รู้จักกฏเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน สังคมมนุษย์ก็ขยับขยายก่อเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ สังคมมีความซับซ้อน เกิดการแข่งขัน เกิดสงคราม เพื่อแย่งชิงอาณาเขตและทรัพยากร  ดังนั้นมนุษย์ในแต่ลละพื้นที่จึงพยายามพัฒนาสังคมความเป็นอยู่ของตนเอง จนเกิดเป็นวัฒนธรรมในกลุ่มชน และสืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นอารยธรรมที่มีความเจริญและเป็นเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง ***


ประวัติยุคโบราณ ยุคหิน และ สมัยประวัติศาสตร์ของตะวันตก | by ...
    
    ซึ่งถึงแม้ว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะมาพร้อมกับความเจริญของอารยธรรม แต่ทุกอารยธรรมล้วนต้องมีความสัมพันธ์กับอารยธรรมอื่นๆด้วยกันเสมอ ไม่มีอารยธณรมไหนที่จะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากอารยธรรมนั้นอ่อนแอ ก็จะส่งผลต่อการถูกกลืนโดยอารยธรรมความเจริญที่แข็งแรงกว่า 


วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2563

วิวัฒนาการและการปรับตัวของมนุษย์


HUMAN EVOLUTIO

5.วิวัฒนาการของมนุษย์ - nutthiya.blue

 https://sites.google.com/

                 มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการมายาวนาน ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยมีทุ่งหญ้าขึ้นมาทดแทน มีป่าไม้้ ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตหลายชนิด และมีวิวัฒนาการบนพื้นดินมากขึ้น โดยที่จากการศึกษาพบว่า บรรพบุรุษยุคแรกเริ่มของมนุษย์ก็คือ ลิง ซึ่งก็มีวิวัฒนาการต่าง ๆ โดยแบ่งมนุษย์ออกเป็นหลายสายพันธุ์แต่ในที่นี้ขอนำเสนอ 4 สายพันธุ์ดังนี้  

    - Australopithecine

5 Australopithecine Photos - Free & Royalty-Free Stock Photos from ...

 https://www.dreamstime.com/

      เป็นมนุษย์เก่าแก่ยุคแรก ที่ค้นพบที่แอฟริกา มีอายุประมาณ 4-5 ล้านปีมาแล้ว ลักษณะคือเริ่มมีการเดินสองขา ยืนตัวตรง แต่ยังไม่พบวัฒนธรรมใดๆเกิดขึ้น 

    - Homo Habilis

Homo habilis Cranium | Dinosaur Corporation

 https://www.dinosaurcorporation.com/cranium.html

     มนุษย์ที่ใช้มือ ค้นพบที่แอฟริกา มีอายุประมาณ 2-4 ล้านปี เพราะเป็นมนุษย์ชนิดแรกที่นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า รู้จักนำเครื่องมือหินมาใช้ในการดำรงชีวิต มีสมองครึ่งหนึ่งของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน 

      - Homo Electus

Reanalyzed Fossils Could Be Last Known Homo erectus Specimens ...

        เป็นมนุษย์ที่มีใบหน้าตั้งตรง มีขากรรไกรแข็งแรง เริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น เริ่มกระจายตัวเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพบหลักฐานกระดูกมนุษย์สองชนิดด้วย นั่นคือ มนุษย์ปักกิ่ง และมนุษย์ชวา มนุษย์ในยุคนี้เริ่มรู้จักใช้ไฟ และใช้เครื่องมือต่างๆมากขึ้น เช่น มีขวาน เครื่องมือมีความประณีต จับถนัดมือมากกว่ายุคอื่นๆ
        

    - Homo sapiens

Homo sapiens 100,000 years older than thought | Financial Times
 
        เป็นมนุษย์ฉลาด เพราะมีความไกล้เคียงกับมนุษย์ในยุคปัจจุบันมากที่สุด มีอายุประมาณ 2แสนปีมาแล้ว ทำเครื่องมือหลากหลายมากขึ้น มีพิธีกรรมเกิดขึ้น รวมถึงเริ่มมีภาษาของตนเอง มนุษย์กลุ่มนี้มีการอพยพไปยังส่วนต่างๆทั่วโลก
     
DEVELOPMENT AGRICULTURE

      ยุคหินเก่า เดิมทีมนุษย์ยังไม่มีความรู้เรื่องการเพาะปลูก เพราะวิถีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หนาวเย็น หรือยุคน้ำแข็ง ดังนั้นการดำรงอยู่จึงเป็นไปอย่างเร่ร่อน ล่าสัตว์ ใช้เครื่องมือหินหยาบ และเริ่มมีการเลี้ยงสัตว์

                    ยุคหินใหม่ เริ่มมีพัฒนาการก้าวกระโดดจากมนุษย์ยุคก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มหมดยุคน้ำแข็ง ทำให้มนุษย์สามารถเดินทางอพยพง่ายขึ้น และเริ่มมีการตั้งหลักแหล่งมั่นคง อีกทั้งยังถือเป็นช่วงแห่งการปฏิวัติเกษตรกรรม มีการเพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ รู้จักคิดหาผลผลิตจากสัตว์ที่เลี้ยง จนมีเนื้อสัตว์กิน และมีนมดื่ม ส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการดำรงชีวิตก็เป็นการประดิษฐ์ที่มีความประณีต เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของการมีชุมชนสังคมขนาดใหญ่นำไปสู่การมีวัฒนธรรมอารยธรรมของมนุษย์ในยุคต่อๆมานั่นเอง

            สุดท้ายนี้วิวัฒนาการของมนุษย์ทำให้ทราบว่า มนุษย์ในแต่ละยุคมีความเก่งและความฉลาดในแบบที่แตกต่างกัน เพราะต่างก็ต้องปรับตัวและหาทางอยู่รอดให้ได้ในทุกสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมนั้นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่ามนุษย์มีการปรับตัวได้มากขึ้นนั่นก็คือ การรู้จักพัฒนาการเพาะปลูก รู้จักการตั้งที่อยู่อาศัย และอยู่รวมกันเป็นสังคมจนก่อเกิดวัฒนธรรมที่เราเรียกว่า  ภาษาขึ้น ก่อเกิดเป็นอารยธรรมที่เจริญงอกงามในเวลาต่อมา เพราะเมื่อมนุษย์รู้ภาษา นั่นก็หมายความว่ามนุษย์รู้จักที่จะถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ให้กับผู้อื่นได้ โดยที่สมัยนั้นยังไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเลยต่างๆ เลยด้วยซ้ำ 

                                                                                                                                        

พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองชาวสะหวันนะเขต

  💕 พระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว 💕 https://www.nairobroo.com/            💖 พระธาตุอิงฮัง 💖  คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง...